จบไปแล้วครับ สำหรับการอบรม
เปลี่ยนความเครียดเป็นพลังบวก 1
เรียนกันสามเสาร์ที่ผ่านมา
(เสาร์ที่ 21 พย.นี้ จะเริ่มหลักสูตรที่ 2)
ลองดูข้อคิดบางแง่จากผู้เรียน
ที่น่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะครับ
หนึ่ง เราอาจเครียดโดยไม่รู้ตัว
ผู้เรียนคนหนึ่งเขียนบันทึกว่า
“ก่อนมาร่วมเรียนรู้ เข้าใจว่าตนเองรู้ทันอารมณ์ตนเองแล้ว
ในระดับหนึ่ง
มากไปกว่านั้น เข้าใจว่า ตนเองไม่ค่อยมีความเครียด
มีเพียงแต่เรื่องการจัดการพื้นฐานภายในตัวเองที่ไม่ดีเพียงพอ
เช่น เรื่องการดื่มน้ำ การนอนหลับ”
แต่เธอค้นพบว่า เธอเข้าใจผิดและเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเครียด
และมองเห็นความเครียดของตัวเองชัดขึ้น
สอง เมื่อมองเห็นการทำงานของจิตใจตัวเอง
เราจะมีความสามารถในการจัดการชีวิตได้ดีขึ้น
ผู้เรียนอีกคนเขียนว่า
“เดิมคิดว่าสมองมีความฉลาดมากพอ ตอนนี้รู้แล้วว่า
ชั้นของความคิดด้วยสมอง
ไม่ได้มีความซับซ้อนและชัดเจนมากอย่างที่คาดไว้
แถมยังชอบทำงานซ้ำๆเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง
ซึ่งเป็นการใช้พลังและเวลาไปในการคิดอย่างไร้ประโยชน์”
สาม การทำความคิดของตัวเองให้ชัด ช่วยเราจัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีขึ้น
“การเขียนปัญหาที่เกิดขึ้นและผลของปัญหาให้เป็นลายลักษณ์อักษร เป็นการแปลงความคิดออกมาให้ปรากฎอย่างชัดเจน
และสามารถมองเห็นภาพรวมของปัญหาและผลที่ตามมา
ในด้านต่างๆ ได้อย่างชัดเจนมาก”
สี่ การแยกแยะประเด็นเพื่อทำความเข้าใจในปัญหาและอารมณ์ความเครียด เป็นฐานสำคัญของการจัดการความเครียด
“เมื่อเกิดความเครียดเราต้องหาสาเหตุของปัญหาก่อน
จึงหาทางแก้ปัญหาและต้องแก้อารณ์ด้วย
(นี่แหละคือปัญหา.....ที่เราไม่เคยคิด)
เมื่อเกิดความเครียดเราไม่เคยคิดถึงว่ามันเป็นปัญหาอย่างไร
เราเอาอารมณ์ของตัวเองเป็นหลัก
แล้วปิดกั้นความรู้สึกที่จะรับรู้ถึงการแก้ปัญหา
คือเอาอารมณ์มากำหนดความคิดทำให้ร่างกายเกิดความแปรปรวนไปกับความเครียดของจิตใจ
พอสุดท้ายก็มองเห็นว่าเราก็สามารถแก้ปัญหาได้....
ก็ไม่เห็นว่าจะต้องไปเครียดกับเรื่องนั้น”
ห้า ความเครียดเป็นคำกลางๆ ภายใต้ความเครียดมักประกอบด้วยอารมณ์ลบหลากหลาย
แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้สำรวจเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น
“ความรู้สึกอันไม่น่าพึงพอใจดังกล่าว เราอาจไม่เคยเอามาคิดวิเคราะห์ทบทวนว่ามันคือความรู้สึกอะไรกันแน่
หรือประกอบด้วยความรู้สึกอะไรบ้าง
การมานั่งคิดทบทวนและจดลงกระดาษทำให้รู้ว่า
สิ่งกระตุ้นอาจก่อให้เกิดความรู้สึกหลายๆความรู้สึก
ประกอบกัน เช่น หงุดหงิด โกรธ เสียใจ รู้สึกผิด กลัว
หากไม่มีโอกาสคิดทบทวน เราอาจจะเข้าใจว่าสิ่งกระตุ้น
หรือปัญหาก่อให้เรารู้สึกอะไรบางอย่างแต่เพียงอย่างเดียว
เฉพาะที่เป็นความรู้สึกที่โด่ดเด่นและชัดเจนเท่านั้น
แต่แท้จริงแล้วอาจประกอบด้วยความรู้สึกหลายๆ
รวมเข้าไว้ด้วยกัน”
เป็นไงกับบันทึกผู้เรียน
ที่เรียนจากประสบการณ์ตรง
ผ่านการตั้งคำถามและสำรวจใจตนเองในแง่มุมต่างๆ
พรุ่งนี้ มาคุยกันต่อภาคสองครับ